ความสัมพันธ์กับต่างแดน ของ บาลด์วินที่ 5 เคานต์แห่งฟลานเดอส์

ความสัมพันธ์กับบูโลญ

ยูซตาสที่ 1 เคานต์แห่งบูโลญมักบาดหมางกับบาลด์วินที่ 4 แต่กลับมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับบาลด์วินที่ 5[4] ทั้งคู่ลงนามในกฎบัตรของกันและกันและร่วมมือกันหลายครั้ง ยูซตาสที่ 1 ลงนามในกฎบัตรของบาลด์วินที่จำกัดอำนาจของผู้รักษาผลประโยชน์ทางด้านกฎหมายของโบสถ์และอาราม (advocate)

ความสัมพันธ์กับอังกฤษยุคแองโกลแซ็กซัน

ฟลานเดอส์ภายใต้การปกครองของบาลด์วินที่ 5 ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีมากนักกับอังกฤษ[5] บาลด์วินให้ที่ลี้ภัยแก่ชาวอังกฤษที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศและมักให้เรือกับกำลังพลแก่พวกเขา[5] เขาให้ความคุ้มครองแก่พระราชินีเอ็มมาในปี ค.ศ. 1036–1040 รวมถึงพระโอรสทั้งสองของพระองค์ อัลเฟรดและฮาร์ธาคนุต[5] เมื่อก็อดวิน เอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์และครอบครัวถูกพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพขับไล่ออกจากประเทศในปี ค.ศ. 1051–2 บาลด์วินให้การต้อนรับพวกเขา ทั้งยังช่วยพวกเขาเตรียมการกลับไปอังกฤษ[5] ฝั่งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพก็ให้กองเรือประจำการอยู่นอกชายฝั่งฟลานเดอส์ในตอนที่บาลด์วินกำลังทำสงครามอยู่กับจักรพรรดิเฮนรีที่ 3 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ การข่มขู่นี้ทำให้บาลด์วินขอทำสนธิสัญญาสันติภาพกับจักรพรรดิ[5]

ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศส

บาลด์วินที่ 5 ได้อิทธิพลมากมายจากการแต่งงานสานสัมพันธไมตรีหลายครั้งระหว่างฟลานเดอส์กับอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี[6] เขาสนิทสนมกับบุตรเขย พระเจ้าอ็องรีที่ 1 แห่งฝรั่งเศส[6] บาลด์วินเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินให้หลานชาย (ลูกชายของพี่ภรรยา) พระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส[5] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1060 ถึงปี ค.ศ. 1067

ความสัมพันธ์กับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ในปี ค.ศ. 1051 บาลด์วินบีบบังคับริคิลดิส ภรรยาม่ายของเคานต์แฮร์มันแห่งเอโนลต์ ให้แต่งงานกับบุตรชายของเขา บาลด์วินที่ 6[7] ทำให้เขาสามารถควบคุมเอโนลต์ผ่านทางบุตรชายได้ ทั้งยังทำให้เกิดความขัดแย้งต่อเนื่องระหว่างบาลด์วินที่ 5 กับจักรพรรดิเฮนรีที่ 3 เนื่องจากเอโนลต์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์[7] หลังพ่ายแพ้ต่อเนื่องจักรพรรดิเฮนรีที่ 3 ถอนทัพกลับไปเยอรมนีและสิ้นพระชนม์หลังจากนั้นไม่นาน ในปี ค.ศ. 1056 บาลด์วินได้รับรัฐชายแดนที่ติดกับแม่น้ำสเกลด์ต์ทั้งหมดเป็นที่ดินศักดินาจากแอ็กเนสแห่งปัวตูที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินให้พระโอรส จักรพรรดิเฮนรีที่ 4 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์[8]

ความสัมพันธ์กับนอร์ม็องดีและอังกฤษยุคนอร์มัน

บุตรสาวของบาลด์วิน มาทิลดา แต่งงานกับวิลเลียมแห่งนอร์ม็องดีที่ต่อมากลายเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ[7] ตอนแรกการแต่งงานถูกคว่ำบาตรจากพระสันนตะปาปาลีโอที่ 9 พระองค์ไม่ได้ให้เหตุผลไว้แต่เป็นไปได้ว่าเพราะทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน[9] ทั้งคู่แต่งงานกันในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1050 ถึงปี ค.ศ. 1052 แม้จะถูกคว่ำบาตรจากพระสันตะปาปาก็ตาม[9] แม้บาลด์วินจะให้การสนับสนุนการพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มันพอสมควร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบาลด์วินกับบุตรเขย พระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อกันนัก[10] กษัตริย์อังกฤษระแวดระวังการเติบโตทางอำนาจของบาลด์วิน[7] แต่บาลด์วินในตอนนั้นก็แก่แล้ว และเสียชีวิตในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1067[1]